Huawei เปิดตัวชิปเซ็ต Kirin 990 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่รองรับ 5G รุ่นแรกของโลก พร้อมกับ 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น หูฟังไร้สาย Huawei FreeBuds 3, เราท์เตอร์ Huawei WiFi Q2 Pro และ Huawei P30 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงต้นปีกับ 2 สีใหม่ ภายในงาน IFA 2019 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์มีรายละเอียดอะไรบ้างนั้น รับชมกันได้เลย
ชิปเซ็ต Kirin 990 เป็นชิปประมวลผลรุ่นแรกของโลกที่รองรับ 5G ในตัว (ซึ่งทางหัวเว่ยมี 2 โมเดล ได้แก่ Kirin 990 5G และ Kirin 990 ที่ไม่รองรับ 5G และมีการประมวลผลที่แรงน้อยกว่า) ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับการให้บริการ 5G ในเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ช่วงปีแรกของการเริ่มให้บริการ
ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่จะใช้งานชิปเซ็ตนี้ ก็คือ Huawei Mate 30 Series ที่จะเปิดตัวในวันที่ 19 กันยายนนี้นั่นเอง
โดยชิป Kirin 990 เป็นชิปเซ็ต 5G ที่มีกระบวนการผลิตแบบ 7nm+ EUV และโมเด็ม 5G ที่ติดตั้งมาในตัว จึงทำให้มีขนาดชิปเล็กกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่าชิปอื่นๆ ที่ใช้ชิปเซ็ต 4G คู่กับโมเด็ม 5G
โดยทาง Huawei ชูจุดเด่นว่าเป็นชิปที่เชื่อมต่อ 5G ที่ความเร็วดาวน์โหลดสูงถึง 2.3 Gbps และอัปโหลด 1.23 Gbps แรงกว่า 4G แบบไม่ทิ้งฝุ่น โดยเทคโนโลยีที่ว่าไม่ได้พึ่ง 5G เพียงอย่างเดียว แต่มีการใช้สัญญาณ 4G เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง และยังช่วยประหยัดแบตฯ เวลาเปิดใช้งาน 5G อีกด้วย
และยังมีการปรับเรื่องระบบสถาปัตยกรรมใหม่มีทั้งหมด 8 Core โดยแบ่งการประมวลผลออกเป็น 3 แบบ Big-core | Middle-core | Little-core ที่ประมวลผลเหมาะกับงาน และช่วยประหยัดแบตฯ มากขึ้น
2x Cortex-A76 Based @2.86GHz : Big-core 2x Cortex-A76 Based @2.36GHz / 2.09GHz* : Middle-core 4x Cortex-A55 @1.95GHz / 1.86GHz* : Little-core
*หมายเหตุ เป็นความเร็วของ Kirin 990 รุ่นธรรมดา
ส่วนการประมวลผลกราฟฟิกก็เป็นชิปตัวแรกของโลกที่มี 16 Core โดยเป็น GPU Mali-G76
และยังเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบ AI ภายในที่ทาง Huawei เคลมว่าเป็น AI ที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่าค่ายอื่นๆ อีกด้วย
อย่างด้านการจัดการแรม Kirin 990 มีฟีเจอร์ Smart Cache ที่นำ Machine Learning มาช่วยในการจัดการทรัพยากร ทำให้การรันกราฟฟิกในเกมทำได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น และกินพลังงานน้อยลงอีกด้วย
อีกเรื่องที่น่าตื่นเต้นก็คือ นวัตกรรม dual-domain noise reduction ที่ตัวชิปเซ็ตสามารถจัดการภาพถ่ายจากกล้องมือถือได้ดีขึ้น สามารถลดสัญญาณภาพรบกวนทั้งภาพนิ่งและวิดีโอได้เทียบเท่ากับกล้องถ่ายรูป DSLR อีกด้วย
Huawei FreeBuds 3
ก่อนที่ Huawei จะเปิดตัว FreeBuds 3 มีการพูดถึงชิป Kirin A1 รุ่นใหม่ที่รองรับทั้ง Bluetooth 5.1 แบบธรรมดา และ Bluetooth 5.1 แบบ LE ที่สามารถแยกออกจากกัน (สองข้างแยกเป็นอิสระออกจากกัน) รับ-ส่งข้อมูลเร็ว แถมกินพลังงานต่ำ และในอนาคต Huawei จะนำไปใส่กับอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์หลายๆ รุ่น
Huawei FreeBuds 3 หูฟังรุ่นใหม่จาก Huawei ที่เป็นหูฟังรุ่นแรกของโลกที่สามารถปรับระดับ Active Noise Cancellation ได้ตามต้องการ และยังมีอัตรา Latency ต่ำจนสามารถนำไปใช้เล่นเกมส์ได้ นอกจากนี้ยังรองรับระบบ Fast Charge และ Wireless Charge Speed ด้วย ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ สำหรับหูฟังใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมง และนำกลับไปชาร์จในเคสเก็บต่อได้อีก 20 ชั่วโมง
นอกจากนี้แล้วไมค์รับเสียงยังมีเทคโนโลยี Mic Duct ที่ป้องกันเสียงลมไหลผ่านไมค์ทำให้สามารถจับเสียงพูดได้อย่างชัดเจน
ด้านดีไซน์ Huawei FreeBuds 3 เป็นหูฟังแบบเอียร์บัด (Ear-buds) ที่มีก้านยาวๆ ออกมาด้านข้าง ตัวเคสเก็บหูฟังมีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายตลับแป้ง และมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวเงาและสีดำเงา
Huawei WiFi Q2 Pro
เราท์เตอร์ Huawei WiFi Q2 Pro เป็นอีกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในงาน IFA ชูจุดเด่นด้านดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมฟีเจอร์ป้องกันคลื่นรบกวนสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากชิปโมเด็ม PLC และ เทคโนโลยี PLC Turbo ให้สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วเต็มพิกัด ตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น รองรับการสร้างเครือข่าย mesh Wi-Fi ความถี่ 5 GHz เพื่อกระจายสัญญาณได้ และมีการผสานเครือข่ายระหว่าง PLC และ Wi-Fi เข้าด้วยกัน เพื่อให้การเชื่อมต่อมีความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,867 Mbps
นอกจากนี้ Huawei WiFi Q2 Pro ยังรองรับการเชื่อมต่อกับเราท์เตอร์แบบพ่วงแบบ Plug and Play ได้สูงสุดถึง 15 เครื่อง โดยตัวเครื่องจะเลือกเชื่อมต่ออุปกรณ์กับคลื่นสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรงที่สุดให้เอง และจดจำรหัสผ่านเราท์เตอร์ตัวเก่าได้อีกด้วย มีเทคโนดลยีเครือข่า IPv6 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่ายและการเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้ขึ้นไปอีกระดับ
Huawei P30 Pro กับ 2 สีใหม่
นอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว Huawei ยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงเมื่อต้นปี Huawei P30 Pro กับสีใหม่ทั้ง สีชมพู Misty Lavender ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีชายหาดภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง และสีน้ำเงิน Mystic Blue ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีของท้องฟ้าที่สะท้อนผิวน้ำทะเล
Misty Lavender Mystic Blue
โดยดีไซน์ใหม่ จะมีความแตกต่างตรงที่ ด้านหลังของตัวเครื่องจะถูกแบ่งพื้นผิวออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ พื้นผิวมันวาว (Glossy) ในส่วนของกล้องด้านบน และพื้นผิวด้านล่างที่เป็นผิวด้าน (Matte) จากเทคนิคการพ่นทราย ลดการเกิดรอยนิ้วมือบนตัวเครื่อง
ส่วนฟีเจอร์การใช้งาน Huawei P30 Pro ได้เพิ่ม Night Selfie เข้ามาใน Night Mode ให้สามารถถ่ายเซลฟี่ในสภาพแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น มีฟีเจอร์ Huawei Vlog AI ให้ผู้ใช้สามารถสร้างมิวสิควิดีโอจากอัลบั้มภาพและวิดีโอภายในเครื่องได้ภายในปุ่มเดียว และที่สำคัญ Huawei P30 Pro สีใหม่ จะมาพร้อมกับ EMUI 10 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจากทางหัวเว่ย โดยสีใหม่นี้จะพร้อมจำหน่ายในวันที่ 20 กันยายนเดือนนี้